13 มี.ค. 2554

ตอน54

ควยเล็กเอาไว้ใช้ ควยใหญ่เอาไว้โชว์ 54
"แกะของขวัญแล้วก็ใช้มันหน่อยสิ รู้นะครับว่าถูกใจ" ไอ้ต้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "ไหนอ่ะของขวัญ ไม่เห็นมีเลย" อารายว้า กูอุตสาห์พลีกายเป็นของขวัญให้แล้วน้า ผมเลยเอามือชี้รอยสักชื่อมัน "นี่ไงคับ ของขวัญ ชอบป่ะคับ" ไอ้ต้าหัวเราะเบาๆ ด้วยตาเปล่งประกายความสุข "ใช่เหรอ พี่นึกว่าต้นจะโฆษณาตัวเองมากกว่ามั้ง" อ่ะนะ คิดไปได้ อันนั้นมันของแถมเฟร้ยยย
"ชอบป่ะคับ" ผมถามอีกที พี่ต้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "น่าจะสักตรงแก้มก้นมากกว่านะ พี่ชอบตรงนั้นมากกว่า" อ๊ายยยยยยยยย ไอ้ต้น มึงพลาดจริงๆ ด้วย "แต่สักตรงไหนพี่ก็ชอบนะครับ เจ็บไหมเนี่ย" ไอ้ต้าพูดพลางเอามือคลำรอยสัก ใกล้อีกนิดก็ไม่ได้ ควยกูอ่ะ มันรออยู่นานแล้วนะ "เจ็บนิดเดียวเอง ตอนแรกจะสักตรงกล้วยอ่ะ แต่มันเจ็บ เลยเปลี่ยนที่" ผมพูดยิ้มๆ ไอ้ต้ามันเข้าใจทันที "แสดงว่าหลอกพี่ใช่ไหมที่บอกว่าโดนตะปูอ่ะ" แฮ่ๆๆๆ ผมพยักหน้า "ร้ายนักนะเรา อย่างนี้ต้องทำโทษ" ไอ้ต้าพูดเสร็จก็ขึ้นคร่อมผมเลย ปากก้มมาประกบปากผมทันที ไอ้เรามันก็รู้งานอยู่ อย่างนี้จะเหลือเหรอ
ไอ้ต้าจูบไล้เรื่อยมาจนถึงหน้าท้องผม มันจ้องมองรอยสักผมอยู่นานแล้วมันก็ยิ้มก็จะฝังรอยจูบประทับแน่นนาน ผมยิ้มอย่างพอใจ ไอ้ต้าเงยหน้ามาสบตาผม ก่อนจะลุกไปที่โต๊ะคอม ผมก็อ้าวเฮ้ย ไปไหนวะ ไอ้ต้ากลับมาพร้อมกับปากกาเมจิกที่ใช้เขียนแผ่นซีดี มันนั่งลงข้างผม แล้วบรรจงเขียนคำๆ นึงบนหน้าอกข้างซ้ายของมัน ตรงหัวใจ
"
" ไอ้ต้าเขียนคำนี้ลงไปบนหน้าอกตัวเอง คำนี้อ่านออกเสียงว่า "จู๋" ไม่ได้ทะลึ่งนะเฟร้ยยย มันอ่านว่าจู๋จริงๆ แปลว่า แฮ่มมมม "ต้นไผ่" ช่างเป็นคำที่เหมาะกับกูจริงเลยยยยย (ถ้าใครจะเรียกผมกับไอ้ต้าทั้งสองคนคู่กันว่า จู๋ต้า หรือ จู๋ใหญ่ ผมกับไอ้ต้าไม่มีใครว่านะครับ เหอๆๆ หรือจะเรียกเต็มยศเลยก็ได้ว่า จู๋ต้น ต้าใหญ่ คิกๆๆๆๆ)
ผมคงไม่ต้องเล่าแล้วนะว่าเกิดอะไรต่อจากนี้ เพราะเดี๋ยวเรื่องมันนานเกิน บอกให้แค่ว่าคืนนั้นไอ้ต้ามันจัดการผมไปสามรอบ แล้วมันให้ผมคืนรอบนึง หุหุ ตอนเช้ากว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง เหอๆ ดีน่ะที่พ่อไม่อยู่เลยไม่โดนด่า ไหนๆ กูจะมีความสุขแล้วขอตักตวงให้มันเต็มอิ่มหน่อยเหอะ
ไอ้ต้ามันบอกผมหลังจากวันนั้นว่า วันเกิดมันปีนั้นเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของมัน บ้านเราไม่เคยจัดงานวันเกิดครับ อาจเป็นเพราะว่าเป็นผู้ชายกันทั้งหมด เลยไม่มีใครละเอียดอ่อนพอที่จะนึกถึงเรื่องวันเกิดเป็นวันสำคัญที่ต้องจัดงาน ผมก็บอกมันเหมืนกันว่าวันนั้นก็เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดเช่นกัน
หลังจากนั้นสองสามวัน พ่อก็ไปขอพี่อุ๋มว่าที่พี่สะใภ้ผมที่บ้านพี่อุ๋มแหละครับ ผมกับไอ้ต้าไม่ได้ไปด้วยหรอก หลังจากนั้นเขาก็กำหนดวันแต่งกัน ก็อีกประมาณสองเดือนก็จะถึงแล้ว พอดีกับช่วงนั้นไอ้ต้ามีสอบปลายภาคด้วย ผมก็ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเรียนต่อเหมือนกัน ผมตกลงใจที่จะไปสมัครสอบมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ก็ไกลจากบ้านตัวเองพอสมควร จริงๆ ใจอยากไปเรียนที่เดียวกับไอ้ต้ามากๆ แต่ที่ไอ้ต้าเรียนอยู่เขาไม่ได้สนับสนุนกีฬามากเท่ากับมหาลัยที่ผมไปสอบ และอย่างที่บอกว่านอกจากไอ้ต้าแล้ว บาสเป็นหนึ่งในชีวิตจิตใจของผม เป้าหมายที่ผมอยากติดทีมชาตินั้นยังคงเหมือนเดิม ไอ้ต้าก็เข้าใจและสนับสนุนผมเต็มที่
ช่วงปิดเทอมพ่อออกปากเลยว่าทำไมผมอยู่ติดบ้านได้ เพราะปรกตินี่ผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่ แต่ทำไงได้ ก็ไอ้ต้ามันอยู่นิ หุหุหุ ตอนแรกผมก็กังวลใจเหมือนกันว่าพ่อจะรู้เรื่องเราสองคนหรือไม่ แต่ช่วงนี้พ่อก็กำลังยุ่งเรื่องเตรียมงานแต่งให้พี่โตก็เลยไม่ได้สนใจเราเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมกับไอ้ต้าเป็นกังวลเล็กน้อยคือ พ่อจะจับเราสองคนแยกห้องนอน
ที่มาที่ไปก็คือไอ้โตมันซื้อบ้านใหม่ไว้ เตรียมเป็นเรือนหอหลังแต่งงานก็ไม่ไกลจากบ้านเดิมผมเท่าไหร่ คราวนี้ห้องไอ้โตมันก็จะว่างลง พ่อก็เลยจะให้ไอ้ต้าย้ายไปนอนห้องพี่โตแทน ผมกับไอ้ต้าได้แต่มองหน้ากันปริบๆ ไม่รู้จะหาเหตุผลคัดค้านพ่อยังไง ก็ตกลงไว้ว่าพอดึกๆ เราจะย่องเข้าหากัน แฮ่ๆๆๆ (สงสัยที่ไอ้โตซื้อบ้านใหม่ มันคงกลัวว่าผมกับไอ้ต้าจะแอบดูตอนมันทำอะไรกับเมีย)
แต่แล้วก็เหมือนกรรมหรือเวรไม่รู้ที่ทำให้การแยกห้องของผมกับไอ้ต้าไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้าวันแต่งไอ้โตเพียงสองสัปดาห์ ห้องแถวใกลๆกันแถวเดียวกับบ้านผมเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ห้องนั้นแล้วลามมาจนถึงบ้านผม ดีที่มันเกิดตอนกลางวัน พวกเราอยู่บ้านกันหมดเลยช่วยกันขนของหนีไฟได้หมด โคตรเสียดายบ้านเลย โดยเฉพาะตรงรอยไม้แตก (เหอๆ) คือบ้านนี้เราอยู่กันมานานมาก พ่อผมถึงกับช็อกไปเลย แต่เราไม่ได้เสียอะไรมากนอกจากบ้าน เนื่องจากขนของออกมาได้หมด แผนการแยกห้องของพ่อผมก็เลยต้องเปลี่ยนไป
พอพ่อหายช็อกแล้วก็มีปัญหาเรื่องบ้านของเราตอนนี้ก็คือจะไปอยู่ที่ไหน ตอนแรกพ่อคิดจะย้ายไปซื้ออาคารพาณิชย์โดยใช้เงินเก็บที่มี แต่พี่โตอยากให้พ่อได้พักไม่ต้องทำงานแล้ว เลยให้พ่อไปอยู่ที่เรือนหอพร้อมกับผมและไอ้ต้า ตอนแรกพ่อไม่ยอมเพราะไม่อยากรบกวนลูก แต่ไอ้โตมันก็ยืนยันให้ไป สุดท้ายพ่อก็ใจอ่อนยอมตามที่พี่โตขอ
บ้านใหม่ของเรามีสามห้องนอน พี่โตกับพี่อุ๋มพี่สะใภ้ผมก็จะอยู่ห้องนึง พ่ออยู่อีกห้อง ส่วนอีกห้องเป็นห้องหอของผมกับไอ้ต้า หุหุหุ ผมดีใจที่พ่อยอมมาอยู่กับพี่โตมากๆ เพราะนอกจากจะไม่ต้องแยกห้องกับไอ้ต้าแล้ว ที่หมู่บ้านยังมีสนามบาสของหมู่บ้านให้ผมได้เล่นทุกวันอีก
วันแต่งงานของพี่โตไม่ได้เลื่อนออกไป เพราะเราไม่ได้ใช้ที่บ้านจัดงานอยู่แล้ว งานแต่งพี่โตจัดที่โรงแรมตั้งแต่งานหมั้นจนถึงงานเลี้ยง ผมกับไอ้ต้าทำอะไรกันไม่เป็นอยู่แล้ว เลยไม่ต้องห่วงด้วยว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง พอถึงวันแต่งผมกับไอ้ต้าก็ทำหน้าที่รับแขกอย่างเดียว สบายเราอยู่แล้ว ไอ้เรื่องเจ๊าะแจ๊ะรับแขกเนี่ยงานถนัดเลย
แต่ผมไม่ชอบใจอยู่อย่างนึง (คิดว่าเพื่อนๆก็คงเป็นเหมือนกัน) เวลาไปงานแต่งญาติที่ไหน หากเจอผู้ใหญ่เค้าจะชอบถามว่า "แล้วเมื่อไหร่จะถึงงานเราบ้าง" ผมกับไอ้ต้าได้แต่มองตากันปริบๆ ทั้งสองคนโดนคำถามนี้จนผมบ่นกับมัน "หรือว่ากูกับมึงต้องแต่งงานกันซะทีวะ จะได้เลิกถาม" ไอ้ต้าหัวเราะครืน แถมมันยังบอก "กูใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวย กูให้มึงใส่แล้วกัน" เหี้ยสิ เจ้าบ่าวทั้งคู่โว้ย ถึงกูจะรับกับมึงก็ไม่ได้แปลว่ากูอยากเป็นผู้หญิงนะ
ผ่านพ้นงานแต่งพี่โตบ้านผมก็หายยุ่งแล้ว พ่อก็ได้พักจริงๆซักที เพราะพี่โตไม่ให้พ่อทำงานเลย พ่อก็เลยหันไปเป็นคนสวนประจำบ้านปลูกต้นไม้เต็มไปหมด ผมกับไอ้ต้าก็อยู่ติดบ้านเพราะยังไม่เปิดเทอม ถ้ากูเป็นผู้หญิงกูก็คงท้องไปนานแล้วล่ะ เพราะไอ้ต้ามันก็ใช่เล่นซะที่ไหน สะกิดกูทุกคืน แถมแตกในไม่ถุงตลอดจนกูชักติดใจซะแล้ว อุ๊บส์ไอ้ต้น พูดอารายออกปายยยยยย
พอเปิดเทอม ผมก็ไปเรียนในมหาลัยที่ผมสมัครไว้นั่นแหละ ได้ทุนนักกีฬาของมหาลัยด้วย เลยทำให้ไม่ต้องเสียค่าเทอม ก็ดีไปอย่าง แต่ผมต้องทำตามกฎของนักเรียนทุนมหาลัยคือผมต้องอยู่ซ้อมบาส ที่มหาลัยตั้งแต่สี่โมงเย็น ถึงทุ่มนึง วันจันทร์-พฤหัส ก็โอเคแหละ แต่สัปดาห์แรกที่ไปโค้ชยังไม่เรียกทีมซ้อม ผมก็เลยยังไม่รู้ว่าใครอยู่ในทีมบ้าง
วันแรกบอกตรงๆเลยว่าโคตรเหงาเลย เพราะไม่มีเพื่อนที่รู้จักสักคน แถมเพื่อนที่เรียนด้วยกันเสือกอายุน้อยกว่าผมทั้งนั้น พอมันรู้ว่าผมซิ่วมาจากมหาลัยชื่อดัง มันก็ไม่ค่อยกล้าคุยด้วย อาจจะเห็นว่าผมอายุมากกว่า แล้วก็คงคิดว่าผมต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ กับที่เดิมเพราะต้องย้ายที่เรียน จนตอนบ่ายรุ่นพี่เรียกคณะผมรวมนั่นแหละผมถึงได้มีคนคุยด้วย
"นายใช่ป่ะที่ซิ่วมาจาก......." ผมหันไปตามเสียงก็เจอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาธรรมดาครับไม่ถึงกับหล่อ แต่ก็ดูดี เข้มๆ แต่ผมว่าหน้ามันแปลกๆ บอกไม่ถูกอ่ะ พอมันทักมาผมก็รับคำมัน มันก็เลยชวนผมคุย เออ ค่อยยังชั่วมีเพื่อนคุยแล้ว มันแนะนำตัวว่าชื่อฟ้า โห คนอะไรวะชื่อยังกะผู้หญิง หน้ายังกะโจรชื่อฟ้า "ฟ้าทะลายโจรเหรอวะ" ผมแกล้งถามมัน มันจ้องหน้า เอาละหว่า กูมาวันแรกจะโดนตื้บไหมวะ "กล้านะมึง" ขึ้นกูขึ้นมึงกะกูแล้ว มันจะต่อยไหมเนี่ย กูจะได้วิ่ง "เออ แต่ฮาดี กูชอบ" อ้าว เสือกชอบซะงั้นไอ้ห่านี่
ไอ้ฟ้าคุยสนุกมากๆๆ นิสัยมันคล้ายๆ กับผมแหละ แต่มันชอบเล่นฟุตบอล มันก็เลยดำซะ (ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผมจะมีอะไรกับมัน ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนซี้ผมจนถึงทุกวันนี้เลย) เรานั่งคุยสักพัก รุ่นพี่ก็มีการแนะนำพี่รหัสของแต่ละคน พี่รหัสผมเป็นผู้หญิง อายุน้อยกว่ากูอีก ดูท่าทางมันจะกลัวผมแทน แต่หน้าตาน่ารักครับ ไอ้ฟ้ามันเห็นว่าพี่รหัสผมเป็นผู้หญิงมันก็ยุใหญ่ "ไอ้ต้น พี่มึงน่ารักว่ะ มึงจีบเลยดิ" ผมไม่ตอบได้แต่ยิ้มขำๆ ไอ้ห่านี่กามเหมือนกูแน่ๆ มาวันแรกจะให้กูม่อหญิงซะแล้ว
"มึงไม่จีบกูจีบนะ แม่งกูโคตรเซ็งเลย พี่รหัสกูเสือกเป็นผู้ชาย" ผมก็หัวเราะไปกับมัน นั่งคุยกันสักพัก ก็มีพี่คนนึงมาพูดเรื่องเดือนเรื่องดาว เอาอีกแล้ว อะไรของมันนักวะเนี่ย กูมาเรียน ไม่ได้มาประกวด มันจะมีไปซะทุกที่เลยหรือไง แต่ไอ้คนที่พูดอยู่ก็หล่อดีนะ มันเป็นเดือนคณะปีที่แล้ว ส่วนดาวก็สวยวะ กูมองดาวคณะเคลิ้มอยู่ ไอ้ฟ้ามันก็มากระซิบ
"นี่ไง ไอ้ผู้ชายคนเนี้ยมันชื่อพี่ทัก แม่งเป็นพี่รหัสกู" ผมก็พยักหน้า เออ แม่งก็หล่อสมเป็นเดือนคณะแหละ แล้วมันจะมาบอกกูทำไมวะ ผมนั่งคุยกับไอ้ฟ้าไปเรื่อยๆ แล้วก็โดนเรียกชื่อออกไปหน้าแถวเพื่อนที่นั่งกันอยู่ "น้องสองคนมานี่เลยครับ พี่พูดแล้วไม่ฟังเลยเอาแต่คุยกัน" เสียงพี่ทักเรียกผมกับไอ้ฟ้า เพื่อนทั้งคณะหันมามองกูเป็นตาเดียว อะไรอีกวะ จะซวยซับซ้อนอะไรนักหนา
ไอ้พี่ทักมันเรียกผมกับไอ้ฟ้ามาทำโทษที่ไม่ฟังมันพูด ยุ่งกับกูจริง มึงจะพูดก็พูดไปสิ กูไม่ได้สนใจอะไรนี่เรื่องดาวเดือน มึงจะไปเป็นนักดาราศาสตร์ก็เป็นไป มันบอกให้ผมแนะนำตัวให้เพื่อนๆฟังว่าชื่ออะไร ไอ้ฟ้าก็แนะนำตัวไป เพื่อนก็ตบมือให้ พอถึงตาผมอะไรดลใจผมไม่รู้ "ผมชื่อต้นไผ่ครับ" สาวๆ กรี้ดกันใหญ่ อะไรวะเนี่ย หันไปมองพี่ทักแกยิ้มแป้นอยู่
"ชื่อน่ารักเชียวนะครับ หน้าตี๋ๆ อย่างนี้ พี่นึกว่าชื่อต้นงิ้วซะอีก" แสรดดดด ไว้ให้มึงปีนตอนตกนรกแล้วกัน พอแนะนำตัวกันเสร็จมันก็ให้ผมกับไอ้ฟ้าเต้นไก่ย่างคนละห้ารอบ สบายมาก ไอ้ต้นถนัดอยู่แล้วเรื่องเสียบตูดซ้ายเสียบตูดขวาเนี่ย ถ้าให้กูเสียบรับรองว่าร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ
"พอแล้วๆๆ" พี่ทักสั่งให้เลิก "ถ้าปล่อยน้องต้นไผ่มันเต้นต่อ พี่ว่าหน่อไม้มันคงทิ่มตาเพื่อนข้างหน้าแน่ๆ" เพื่อนกรี้ดกันสนั่นเลย กูก็เลยก้มดู อ้าวเฮ้ย ทำไมเป้ากูมันตุงอย่างนั้นวะน่ะ สงสัยกูจะกระดกเอวแรงไปหน่อย ผมรีบวิ่งกลับมานั่งที่เดิม ไอ้ฟ้ามันก็มานั่งข้างกัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ ผมนั่งฟังพี่ทักพูดไปจนจบกิจกรรม ผมกับไอ้ฟ้าก็เตรียมตัวกลับบ้าน มันก็เดินไปกับผมบ่นไปตลอดทางเรื่องพี่รหัสมัน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มันคงอึดอัดมาก มันเลยพูดออกมา
"ไอ้ต้น มึงแลกพี่รหัสกับกูเหอะ กูเกลียดขี้หน้ามันวะ"




**************************************************
มีอะไรสนุกๆ มาแถมให้ครับ
ภาษาจีนแต้จิ๋วเขาอ่านเลขกันอย่างนี้ครับ
0 อ่านว่า คัง
1 อ่านว่า อิก
2 อ่านว่า หยี
7 อ่านว่า ฉิก
9 อ่านว่า เก้า
ลองอ่านเลขเหล่านี้ด้วยภาษาจีนแต้จิ๋วดูนะครับ
0202
0099
0292
0191
0021
9927

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น