1 มี.ค. 2554

ตอนที่ 37



"เออ งั้นรบกวนมึงก่อนแล้วกัน คงไม่นาน ขอบใจว่ะ" ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เชนมันนะ คร้าบบบ แค่คิดว่ามีที่ซุกหัวนอนสักพัก ไอ้ก้องกลับมาเมื่อไหร่ค่อยย้ายกลับไปอยู่กับมันก็ได้ "เออ ไม่เป็นไร เพื่อนกัน" ไอ้เชนพูดอย่างอารมณ์ดี
ไอ้เชนพาผมมาที่คอนโดของมันซึ่งต้องย้อนผ่านหน้ามหาลัยของผม (ไม่ใช่แล้วสิ เฮ้อ..) ผมอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองตรงประตูทางเข้าอีกครั้ง ไอ้ต้าไม่อยู่แล้ว ใครจะไปอยู่วะตั้งหลายชั่วโมงแล้วนี่ มือถือผมไม่ได้เปิดขึ้นอีกเลยหลังจากที่ปิดไปคราวก่อน ไม่อยากเปิด ไม่อยากคุยกับใคร ผมเลยนั่งนิ่งมาจนถึงคอนโดไอ้เชน มันก็เปิดรถลงไป ผมเหม่อๆ อยู่มันก็มาเคาะกระจกเรียกให้ผมลงตาม
"เป็นไรมึง ทำหน้ายังกะถูกข่มขืนมา" ไอ้ห่าเชนแม่งมีอำนาจจิตอ่านใจกูออกหรือไงวะ เสือกเดาซะแม่นเลย "เชี่ยสิ" กูตอบได้สั้นๆ แค่นั้น มึงอย่าข่มขืนกูอีกคนแล้วกัน ไม่งั้นกูเอาคืน ไอ้เชนเดินนำผมไปที่ลิฟท์ คอนโดมันก็ดูโอเคนะ คือก็ดูหรูแต่ไม่เวอร์อ่ะ ที่บ้านมันคงเช่าให้มันอยู่มั้ง
"อ่ะเนี่ย ห้องกู" ผมเดินตามมันไป ห้องไอ้เชนเป็นระเบียบมาก ดูๆ ไปเหมือนห้องตัวอย่างที่เขาตกแต่งโชว์มากกว่า ขนาดทีวีแม่งยังเป็นพลาสม่าเลย สี่ห้าปีที่แล้วพลาสม่าไม่ใช่ถูกๆนะครับ ราคาแม่งตกตอนแอลซีดีทีวีเกิดเนี่ยละ (นอกเรื่องได้อีกกู) ผมเดินไปนั่งโซฟาที่ตั้งกลางห้อง ไอ้เชนมันเปิดประตูห้องนอน "เอาของมาเก็บก่อนมึง อาบน้ำป่ะ" มันทั้งสั่งทั้งถาม
ผมก็ว่าง่าย ลุกตามมันสั่งโดยดี "มึงอยู่คนเดียวเหรอวะ" ผมอดถามไม่ได้ เพราะห้องที่ไอ้เชนมันอยู่แม่งดูใหญ่โตเกินกว่าจะอยู่คนเดียว ไอ้เชนไม่ตอบมันยื่นผ้าเช็ดตัวให้ผม "มึงไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยคุยกัน ตัวเหม็นเป็นหมาเปียกเลยไอ้ห่า" แสรดดด ด่ากูได้อีก ไอ้ห่าเชน ผมรับผ้าจากมันมาก็เอามานุ่งเตรียมถอดกางเกงลง ไอ้ห่าเชนเสือกนั่งจ้องกูซะงั้น อย่านะเว้ยไอ้ต้น มึงอย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้ ไอ้ห่าเชนแม่งก็จ้องยังกะหาหวย กลัวว่ามึงจะไม่เจอหวย แต่จะเจอควยกูนะสิ
ผมหันหลังกลับ แม่งเล่นจ้องอย่างนี้กูก็อายเป็นนะเว้ย ผมถอดกางเกงออกแล้วถอดเสื้อตาม (ชำนาญการถอดส่วนล่างมากกว่า) ไอ้เชนมันก็พูด "เฮ้ยไอ้ต้น ตกลงมึงโดนข่มขืนจริงดิ แม่งหลังมึงมีแต่รอยมือ" ผมรีบหันหลังเข้ากระจก ไอ้ห่าเชนแม่งก็พูดเกินไป มันแค่เป็นรอยแดงๆ ไอ้ห่าต้ามันมาจิกหลังกูตอนไหนวะ ไม่ยักรู้ตัว
"เหี้ยเส่ สงสัยกูคัน ไม่ได้อาบน้ำมาสองสามวันแล้ว เกาแรงไปหน่อย" ผมรีบกลบเกลื่อน ไอ้เชนรีบไล่ "สังคังแดกแล้วมึง รีบไปๆ เลยไป" ว่าแล้วไอ้ต้นก็เผ่นแว๊บบบเข้าส้วม ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา บอกแล้วว่ากูยังไม่พร้อม เกิดไอ้ห่าเชนหน้ามืดบุกมาปล้ำกูอีกคน กูก็ไม่รู้เส่ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เอ้ย ไม่ช่ายยยแล้วไอ้ต้น มึงมั่วแล้ววว
ผมรีบสำรวจตัวเองในกระจก แม่งหลังกูมีแต่รอยจริงๆ ด้วย ผมพยายามนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แม่งจำอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่ก่อนนอน "เมา" หลังนอน "เจ็บตูด" หรือมันจะเป็นรอยตอนไอ้ต้ามันกอดกูวะ คงเป็นงั้นมั้ง ช่างมัน อาบน้ำดีกว่า
พออาบน้ำแล้วผมก็สดชื่นขึ้นเยอะ ไอ้เชนแม่งเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ด้วย แต่แม่งหายไปไหนวะ ผมแต่งตัวเสร็จก็มานั่งอยู่ในห้องรับแขกข้างนอก ตาเริ่มง่วงเพราะตั้งแต่ออกจากบ้านมาเมื่อกลางดึก ก็ยังไม่ได้นอนอีกเลย นั่งดูทีวีไม่เท่าไหร่ก็เห็นพระอินทร์มากวักมืออยู่ไกลๆ เรียกให้ไปเข้าเฝ้า
ผมสะดุ้งตื่นอีกทีเพราะมีอะไรเย็นๆ แข็งๆมาโดนหน้า "เฮ้ย อะไรวะ" ผมอุทานพลางคว้าไอ้เย็นๆแข้งๆที่ว่าไว้ในมือ แม่งแข็งโคตร มือกำไม่รอบเลย แถมเย็นเจี้ยบอีกตะหาก อ่ะๆๆ กูรู้น่ะว่าพวกมึงคิดอะไรกันอยู่ ........ ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ ไอ้เย็นๆ แข็งๆ ที่ว่าคือกระป๋องเบียรเย็นๆที่ไอ้เชนยื่นให้ ใครคิดว่าเป็นควยรู้ตัวไว้เลยว่ามึงหื่นกาม
"อ๊ะ จะได้หลับสบาย" ไอ้เชนพูดพลางยื่นให้ เอ้อ พี่เชนคร้าบบบ เท่าที่กูจำได้เมื่อกี้กูหลับสบายอยู่นะคร้าบบบบ มึงจะปลุกกูขึ้นมาแดกเพื่อให้กูหลับสบายหาหอกอะไรกันคร้าบบบบบ "ขอบใจว่ะ" กูรับมาแล้วก็ซัดอักๆ เข้าปาก "อยู่ไหวไหมวะห้องกู" ไอ้ห่าเชนถามทำไมวะ ห้องมันอยู่ได้สบายเกินไปด้วยซ้ำ "ไหวเส่ ขอบใจนะมึง ไม่ได้มึงกูแย่แน่" ผมอดขอบใจมันไม่ได้ ไอ้เชนยิ้มจางๆ
"มึงมาอยู่เป็นเพื่อนกูก็ดี ไม่ต้องเกรงใจนะโว้ย ห้องนี้ของกู กูซื้อเอง พ่อแม่กูยังไม่เคยมาเลย" ไอ้เชนพูดขำๆ ผมก็ทึ่งกับมัน แม่งเก่งเว้ย หาเงินซื้อห้องได้เอง แต่แม่งทำอะไรวะทำไมหาเงินมาซื้อได้ ห้องมันราคาไม่น่าจะถูกเท่าไหร่เพราะอยู่ใจกลางเมืองทีเดียว แต่ผมไม่กล้าถามมันหรอก เรื่องส่วนตัวของมัน ถ้ามันอยากบอกมันบอกเองแหละ
"มึงอยู่ไปก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อ" ผมก็พยักหน้าไปกับมัน สักพักไอ้เชนก้ขอตัวไปโทรศัพท์ ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมานั่งมอง ใจนึงอยากเปิด ใจนึงก็อยากปิดมันไว้อย่างนี้ เฮ้อ เอาไงดีวะ ไม่ทันไรไอ้เชนก็เดินมา "มึงอยู่ไปก่อนนะ จะนอนก็ได้ กูไปธุระ เย็นๆ กลับ ถ้าหิวโทรสั่งแล้วกัน เบอร์นี้นะ" ไอ้เชนพูดแล้วยื่นกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ให้ ผมก็รับมา
ไอ้เชนออกจากห้องไปแล้วผมก็นั่งมองโทรศัพท์อยู่ เอาไงดีวะ ในใจตอนนี้คืออยากโทรหาพี่ดิวกลัวแกเป็นห่วง แต่กลัวเจอไอ้ต้าโทรเข้า เอาไงเอากัน มันโทรมากูไม่รับก็เท่านั้น ผมเลยเปิดเครื่อง เอาอีกแล้ว ทั้งสั่นทั้งเสียงดังเตือนระงมเลย มีข้อความใหม่กับสายไม่ได้รับเป็นสิบ ไม่อ่ะขี้เกียจอ่าน ไอ้ต้าแทบทั้งนั้น เอ้ย มีจากเบอร์พ่อกูด้วยนี่หว่า จะส่งเมสเสสให้พ่อก็ไม่รู้เปิดเป็นเปล่า โทรไหาก็ได้วะ
ผมกดเบอร์พ่อแล้วโทรออก "หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" แบตหมดมั้ง ไว้เดี๋ยวค่อยโทรหาใหม่ ผมกดเบอร์พี่ดิว มันดังอยู่นานเหมือนกันก่อนแกจะมารับ ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก พี่ดิวก็ส่งเสียงมาเป็นชุด "พี่กำลังยุ่งอยู่นะต้น เดี๋ยวพี่โทรกลับนะครับ" แล้วก็วางหูเลย กูอ้าปากค้างยังไม่ได้พูดอะไรสักคำน้อยใจแล้วนะโว้ย
ผมปิดโทรศัพท์แล้วนั่งมองมันอยู่นานจนเคลิ้มหลับไปตรงโซฟานั่นแหละ ผมหลับไปนานมากจนมาตื่นอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงไอ้เชนมันทำของตก มันกลับมาเมื่อไหร่วะ ทำไมมันเดินเซๆ แบบนั้นวะเนี่ย ไอ้เชนเดินเซมาหาผมมานั่งตาเยิ้ม เสื้อผ้ายับยู่ยี่เชียว ไปทำเหี้ยไรมาวะ มันยิ้มให้ผมใหญ่ แม่งเมามาแน่เลย แต่ตัวไม่มีกลิ่นเหล้ากลิ่นเบียร์ เหมือนคนเมายามากกว่า ขับรถกลับบ้านมาได้ไงวะเนี่ย
"กูมาวววว" ไอ้เชนพูดเสียงอ้อแอ้ ไอ้ห่ามึงไม่บอกกูก็รู้ว่ามึงเมา แต่มึงไปเมาอะไรมาวะ "เมายาหรือไงวะ" ผมถาม ไอ้เชนพยักหน้าหงึกๆ "มึงเล่นยาอะไรวะ" ไอ้เชนส่ายหน้า เอากะมันสิ แล้วกูจะรู้เรื่องไหม "กูมาวววววว" ไอ้เชนบอกอีกรอบ แล้วไงวะ มึงเมาแล้วจะให้กูเย็ดมึงรึไง สัดนี่ ไอ้เชนนั่งยิ้มอยู่พักนึง มันก็ลุกเดินเข้าห้องนอนไป กูยืนมองมันเดินไปนอนที่เตียงเรียบร้อย กูก็ล้มตัวลงนอนที่โซฟาบ้าง ตอนนั้นบอกตรงๆว่าไม่ได้มีอารมณ์จะทำอะไรมันหรอก ปล่อยให้มันนอนไปดีกว่า
ผมอยู่คอนโดไอ้เชนเกือบสัปดาห์ มันก็เป็นแบบนี้ตลอด ตื่นมามันก็แต่งตัวไปเรียน กลับมาที่ห้องก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษาเหมือนเดิมแต่ชุดใหม่ แล้วก็ออกไปอีก กลับมาอีกครั้งในสภาพเมายาทุกวัน บางวันก็หัวเราะ บางวันมันก็ทำหน้าเศร้า แต่มันไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย จนวันนึงมันกลับมาสภาพเมาหนัก คราวนี้คงทั้งเหล้าทั้งยาเพราะสภาพมันเน่ามาก กลับมามันยังอุตสาห์จะชงเหล้ากินต่อ มันก็ชวนผมกินด้วยกันแหละ แต่ยังไม่ทันกินเลย มันก็ทำแก้วตกแตกกระจาย
"มึงไม่ต้อง กูเก็บเอง" ผมร้องบอกไอ้เชนที่มันยังยืนมองแก้วที่แตกเกลื่อน ไม่รู้ไอ้เชนมันรู้ตัวหรือเปล่า แม่งเอาแต่ยืนยิ้ม ไอ้ห่านี่บ้าปล่าววะ หน้ากลัวแหะ ผมกำลังก้มๆ กวาดเศษแก้ว ไอ้ห่าเชนแม่งก็เสือกเซแซ่ดๆ มาแล้วก็เหยียบเศษแก้วจนเต็มตีน เลือดกระฉูดนองพื้นเลย "กูเจบบบบบบ" ไอ้ห่าเชน มึงไม่เจ็บก็แย่แล้ว แก้วแม่งบาดตีนขวาไอ้เชนโคตรลึกเลย เศษแก้วยังปักคา ไอ้เชนยังยิ้มกับความเจ็บ ยาเหี้ยอะไรวะทำมันยิ้มได้ตลอดเวลาขนาดนี้ ผมผลักให้มันนั่งลงที่โซฟาแล้วช่วยมันดึงเศษแก้วออก แม่งมีเศษเล็กๆติดข้างในอีกเพียบ เลือดไหลนองเลย
"ไปโรงบาลเหอะมึง แผลลึกว่ะ" ผมร้องบอก เพราะดูแผลแล้วแม่งน่ากลัวชิบ เลือดมันจะออกหมดตัวก็งานนี้แหละ มันไม่พูดอะไรพยายามทรงตัวด้วยขาข้างเดียวที่ยังเหลือ แม่งเอ้ยยืนสองขายังเซขนาดนั้น แล้วยืนขาเดียวมันจะรอดไหมเนี่ย ผมช่วยประคองมันไว้เลือดไหลเป็นทางเลย ตอนนี้สติมันคงกลับมาบ้างแล้ว เพราะหน้ามันแสดงความเจ็บเป็นระยะ ผมเอาถุงพลาสติกผูกเท้ามันไว้ไม่ให้เลือดไหลนองพื้นไปข้างนอก แล้วก็คว้ากุญแจมันบึ่งไปโรงพยาบาลทันที
ผมส่งไอ้เชนที่ชั้นล่างตรงทางเข้าฉุกเฉินแล้วก็ต้องวนรถไปจอด โรงพยาบาลเหี้ยไรวะแม่งที่จอดรถน้อยฉิบหาย กว่าจะจอดได้โคตรนานแม่งจอดตั้งชั้น 9 ผมลงมาไอ้เชนก็ทำแผลเสร็จแล้ว ตอนนี้มันหายมึนแล้ว หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย หมอบอกว่าแผลลึกพอควร เย็บให้แล้วเกือบสิบเข็ม แล้วก็ให้กลับบ้านได้ ผมเลยจะกลับไปเอารถลงมารับมันข้างล่าง "เฮ้ยไม่ต้องหรอก กูไหว ขึ้นไปพร้อมกันเลย" ไอ้เชนบอกผม ผมดึงรถเข็นจะเข็นให้มัน มันก็บอก "เฮ้ย กูเดินเอง นั่งรถเข็นไม่แมนว่ะ" ไอ้ห่า ยังอุตสาห์ห่วงแมน มันเดินกระย่องกระแย่งค้ำไม้ค้ำตามผมไป
ผมเข้าไปในลิฟท์กับไอ้เชน ตอนนั้นในลิฟท์ไม่มีใคร ลิฟท์จอดอีกครั้งที่ชั้นสอง มีคนเข้ามาอีกห้าหกคน ท่าทางจะมากันเป็นครอบครัว ผมกับไอ้เชนเลยเขยิบเข้าไปชิดด้านในลิฟท์ ลิฟท์จอดอีกครั้งที่ชั้นสี่ พวที่ขึ้นมาจากชั้นสองก็เขยิบเข้าชิดในเพื่อเปิดทางให้คนที่จะเข้ามาจากชั้นสี่เข้า พอประตูลิฟท์เปิดผมก็ต้องตกใจ ไอ้ต้ากับไอ้โตมันยืนรออยู่หน้าลิฟท์ มันคงไม่ทันเห็นผมเพราะมันหันหน้าคุยกันอยู่ ผมรีบหลบหลังไอ้เชนทันที ดีที่ตัวมันใหญ่เลยหลบได้พ้น ใจเต้นเป็นกลองเพลเลยกู มันคงพาไอ้ต้ามาทำแผลมั้ง ผมคิดในใจ กูไม่น่ามาโรงพยาบาลนี้เลย ลืมไปเลยว่าโรงพยาบาลนี้ใกล้บ้านผมมากที่สุด จริงๆมันใกล้คอนโดไอ้เชนมากกว่า แต่ถ้าที่บ้านผมมีใครไม่สบาย ก็จะมาโรงพยาบาลนี้กันเสมอ
ไอ้ต้ากับไอ้โตก้าวเข้ามาแล้ว ผมงี้ยืนเกร็งเลย ถ้ารถกูจอดอยู่ชั้นต่ำกว่าพวกมันนี่กูไม่รอดแน่ เจอตัวขนาดนี้มันจะปล่อยผมเหรอ กำลังภาวนาเลยว่าขอให้มันออกไปกันก่อนคนอื่น เสียงไอ้โตก็ดังขึ้นเบาๆ "แล้วติดต่อไอ้ต้นไม่ได้เลยเหรอ" แสรด ไปพูดกันที่อื่นไม่ได้เหรอ ไอ้เชนแม่งกำลังจับตามองความผิดปรกติของกูอยู่ด้วย มันคงสงสัยแล้วว่าผมทำไมต้องย่อตัวหลบอยู่หลังมัน "ไม่ว่ะ มันปิดเครื่องตลอดเลย" ผมแอบมองไอ้สองคนนั่นมันหันหลังให้ผม ค่อยยังชั่วมันคงไม่เห็นไม่งั้นมันไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาหรอก
"แล้วมึงจะเอาไงวะ ไม่บอกความจริงมันล่ะ" ผมเงี่ยหูฟังทันที แม่งแต่ไม่ใช่กูคนเดียวเส่ ไอ้ครอบครัวชั้นสองแม่งก็เงี่ยหูฟังด้วย เสือกจริงๆ "ก็ไม่มีโอกาสบอกนี่หว่า ถ้ามันฟังกูก็ว่าไปอย่าง" ไอ้ต้าตอบเสียงเบา ตอนนี้ผมเริ่มสับสนแล้วว่ามันมีความจริงอะไรที่กูไม่รู้อีก ทำไมครอบครัวกูมีความลับอะไรนักหนาวะ
ลิฟท์เคลื่อนไปช้าๆ ตอนนี้เกือบถึงชั้นหกแล้ว สาธุ ขอให้มันออกไปก่อนเหอะ ไม่งั้นกูคงต้องขึ้นไปจนสุดแล้วค่อยลงมาใหม่ ไอ้เชนแม่งต้องสงสัยแน่ๆ อ๊อยๆๆ ทำไงดีวะ อย่านะโว้ย รีบลงไปเลยเหอะพวกมึง ไอ้โตยืนมองเลขลิฟท์ที่กำลังจะเคลื่อนผ่าน แล้วมันก็กดเลข 8 เหอๆ รอดแล้วกู ผมยิ้มเลย อย่างน้อยมันก็ลงไปก่อนแน่ๆ แล้ว กำลังหลงดีใจกับตัวเอง เสียงไอ้โตก็ดังขึ้นอีกครั้ง "ถ้ามึงบอกเรื่องพ่อป่วย มันกลับมาหาพ่อแน่ๆ แล้วมึงค่อยหาเวลาคุยกับมันก็ได้" ชิบหายแล้ว พ่อกูป่วยเรอะ กูยืนตัวซีดเลย ยังไม่ทันที่ไอ้ต้าจะตอบ ประตูลิฟท์ก็เปิดออกที่ชั้นแปด ไอ้ต้ากับไอ้โตก้าวเดินออกไป ผมยืนอึ้งกับสิ่งที่รับรู้มา พ่อกูป่วย เมื่อไหร่วะ เพราะกูหรือเปล่าเนี่ย
ผมยืนค้างอยู่อย่างนั้นจนลิฟท์มาจอดชั้นเก้า ครอบครัวนั้นออกที่ชั้นนี้เหมือนกัน แต่ผมยืนตัวแข็ง ไอ้เชนที่กำลังจะขยับตัวออกมันยืนงงที่เห็นผมยังคงยืนค้างอยู่ในลิฟท์ "เป็นไรป่าววะมึง" ผมไม่ตอบมัน แต่กดลิฟท์ที่ชั้นสี่ แล้วกดประตูให้เปิดค้างไว้ "ไอ้เชน มึงไปรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวกูมา" ไอ้เชนมองอย่างสงสัยที่ผมทำอะไรแปลกๆ แต่มันก็ยอมรับกุญแจแล้วเดินโขยกไปที่รถโดยดี ผมรีบกดประตูปิด ในใจตอนนี้เริ่มวิตกแล้ว พ่อกูป่วย ชั้นสี่หรือเปล่า ไอ้สองคนนั้นมันมาหาทำแผลกันเองหรือมาหาพ่อวะ
พอลิฟท์เปิดผมรีบวิ่งไปดูป้ายรายชื่อคนไข้ นั่นไงชื่อพ่อกูจริงด้วย ผมรีบวิ่งไปที่ห้องหมายเลขเดียวกับที่พ่ออยู่ แม่งอยากจะร้องไห้ ชื่อติดหน้าห้องพ่อกูจริงๆด้วย ผมเปิดห้องเข้าไปพ่อนอนอยู่บนเตียงคงจะหลับแล้ว หน้าตาพ่อดูซีดเซียว ปรกติพ่อผมไม่ใช่คนที่จะเจ็บป่วยอะไรง่ายๆ เท่าที่จำได้พ่อไม่เคยนอนโรงพยาบาลเลย ไม่มีโรคประจำตัวด้วย ผมเดินไปนั่งอยู่ข้างเตียง อยากบอกพ่อว่าไอ้ต้นไผ่ของพ่อมันมาหาพ่อแล้ว แต่ไม่กล้าปลุก พ่อเป็นอะไรวะ ผมเดินไปดูชาร์ตที่แขวนไว้ท้ายเตียง แม่งลายมือหมอโคตรส้นตีน อ่านไม่เห็นรู้เรื่องเลย
ผมกลับมานั่งมองดูพ่อที่นอนหลับอยู่ แม่งอยากจะร้องไห้ว่ะ กูทำอะไรลงไปเนี่ย ถ้าพ่อป่วยเพราะกูจริงๆ กูคงมองหน้าใครไม่ติดอีก ผมนั่งมองพ่อไม่ทันไรน้ำตาแม่งก็ไหล หลังจากวันที่มีเรื่องกับไอ้ต้าวันนั้นผมไม่ได้ร้องไห้อีกเลย ผมนั่งมองอยู่พักใหญ่ เสียงประตูห้องก็เปิดออก ไอ้โตยืนอยู่หน้าห้อง มันก็คงงงที่เห็นผมนั่งอยู่ ในมือมันถือกระเป๋ามาด้วย มันคงจะมานอนเป็นเพื่อนพ่อ
"เฮ้ย ไอ้ต้น มึงไปอยู่ไหนมา" ไอ้โตเดินปรี่มาหาผม หน้าตาดีใจสุดๆ ผมยืนอึ้งเลย จริงๆ ไม่อยากให้ใครเจอ "มึงรู้ไหมพ่อเป็นห่วงขนาดไหน" ไอ้โตพูดเสียงสั่น ผมไม่ไหวแล้ว ปล่อยน้ำตาไหลพรากเลย พ่อกูป่วยเพราะกูจริงๆด้วย "พ่อเป็นอะไร" ผมถามไอ้โตเสียงสั่น "หมอบอกเป็นโรคเครียด ก็ตั้งแต่มึงหายไปพ่อก็ไม่ยอมกินข้าวเลย ไม่หลับไม่นอน หมอเพิ่งให้ยานอนหลับเนี่ยถึงเพิ่งหลับได้ มึงไปอยู่ไหนมาวะ รู้ไหมว่าพวกกูเป็นห่วง" ผมอึ้งเลย "ไอ้ต้น กลับมาบ้านเหอะ" ไอ้โตพูดโดยไม่ยอมให้ผมโต้ตอบ "ไอ้ต้าก็เป็นห่วงมึง มันโทรหามึงติดต่อมึงไม่ได้เลย"
"พี่โต ผมขออะไรอย่างนะ" ผมพยายามพูดปรับเสียงไม่ให้สั่น "ตอนนี้ผมยังไม่อยากกลับบ้าน บอกพ่อด้วยว่าผมสบายดี" ผมกลืนน้ำลายอีกครั้ง "แล้วอย่าบอกไอ้ต้าว่าผมมาหาพ่อนะ" ไอ้โตจ้องหน้าผมเขม็ง "ไอ้ต้น ถ้ามึงยอมคุยกับไอ้ต้า แล้วมึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร มึงอาจจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้นะ" อะไรของมึงวะไอ้โต กูยังเจ็บตูดอยู่เลยยังจะมีอะไรที่จริงกว่านี้อีก "อย่าพูดเรื่องนั้นได้ไหม ไม่อยากคุย" ผมขึ้นเสียง ไอ้โตส่ายหน้าอย่างไม่ชอบใจ "แล้วแต่มึงแล้วกันนะ แต่กูจะบอกให้ ว่าไม่ใช่ว่ามึงจะเจ็บคนเดียว ไอ้ต้ามันก็เจ็บไปไม่น้อยกว่ามึง" แม่งไอ้โตหมายความว่าไงวะ
ผมถามไอ้โตได้ความว่ามันกับไอ้ต้าจะสลับกันมาดูพ่อ โดยในช่วงเย็นถึงสักสี่ห้าทุ่มไอ้ต้าจะมา แล้วดึกๆ ไอ้โตก็จะมานอนกับพ่อ พอดีกูว่างช่วงเช้าด้วย งั้นกูมาหาพ่อตอนเช้าก็ได้วะ ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเจอพวกมันด้วย ยังไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้น "อย่าลืมนะพี่ ห้ามบอกไอ้ต้านะ" ผมย้ำกับพี่โตอีกครั้งก่อนออกมาจากห้อง
ผมกลับมาที่รถ ไอ้เชนมันนั่งรออยู่ไม่พูดอะไร ผมนึกว่ามันเหนื่อยเลยปล่อยให้มันอยู่เฉยๆ ขับรถพามันกลับคอนโด ไอ้เชนไม่พูดอะไรตลอดทางกลับ ผมประคองมันกลับขึ้นห้องมันก็ไม่พูด แต่พอถึงห้องมัน มันก็เปิดตู้เย็นส่งเบียร์ให้ผมที่นั่งพักอยู่ที่โซฟา ไอ้เชนมันจ้องหน้าผมเขม็งจนผมอึดอัด แม่งเป็นเหี้ยอะไรอีกวะ ไอ้เชนซดเบียร์อึกใหญ่ก่อนพูดออกมา
"เอาล่ะไอ้ต้น มึงเล่าความจริงมาสิ ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่"

POSTED BY TONETAR AT

*****************************************************



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น