8 มิ.ย. 2554

ตอนที่ 122

ตอนแรกว่ายังจะไม่ลงตอนใหม่ แต่กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่มีเวลาอีก เอาเป็นว่าเล่าต่อเลยแล้วกันว่ะ อ้อ ว่าจะถามคำถามต่อ แต่จะมีใครตอบไหมเนี่ย
ไอ้ต้นกำลังอินเลิฟ เลยอยากรู้ว่า เวลาที่พวกมึงมีแฟน อยากให้แฟนทำอะไรให้มากที่สุด อ่าๆๆๆ ยกเว้นเรื่องเย็ดกันนะเว้ยย
**********************************************************
ควยเล็กเอาไว้ใช้ ควยใหญ่เอาไว้โชว์ 122
สรุปแล้วคืนนั้น ผมโดนไอ้ต้าเกาแก้คันไปอีกสองดอก เล่นเอากูหลับเป็นตายหายคันเป็นปลิดทิ้ง ตื่นมาอีกทีก็สายน้าเบิ้ม (แปลว่าสายแก่) แล้ว ไอ้ต้ายังคงหลับตานอนกอดผมอยู่ เหนื่อยล่ะเส่ เกากูนานขนาดนั้น
ผมย้อนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากที่พี่กิตรู้แล้ว ผมก็ไม่แคร์อีกว่าดาวจะรู้ไหม ถ้าไม่รู้ก็ต้องรู้ละวะ ก็เล่นเกากันไม่ได้เกรงใจข้างห้องเลย ผมนอนมองหน้าไอ้ต้าอยู่สักพัก ไอ้ต้าก็ขยี้ตาตื่น โคตรชอบเลยเวลาไอ้ต้ามันหลับ เหมือนเด็กๆไงไม่รู้ ยิ่งตอนตื่นนอนแล้วชอบทำหน้าเบลอๆ ได้ใจกูอีก
ผมกับไอ้ต้าอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกมาเจอดาวที่กำลังป้อนนมไอ้เต้อยู่ข้างล่าง แม่งไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องกูกับไอ้ต้าหรือยัง แต่ดาวก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ถามอาการผมว่าหายคันหรือยัง ผมก็ตอบไปตามตรงว่ายังมีอยู่บ้าง เฮ้ยๆๆ กูหมายถึงแขนนะเว้ย ตอนนี้มันยังแดงอยู่ แต่มันก็ไม่ได้คันมากมายแล้ว ได้แต่เซ็งตัวเองที่กังวลเกินเหตุ หาเรื่องเจ็บตัวซะงั้น
ผมกับไอ้ต้าบอกลาดาวกลับกรุงเทพก่อนเที่ยง ข้าวของที่ทิ้งไว้ที่ริสอร์ทที่เพชรบุรี ผมฝากไอ้ทักกับไอ้โทนเก็บไปให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไอ้ต้าขับรถเรื่อยๆ บรรยากาศผิดกันกับขามาลิบลับ ผมกลับมาถึงกรุงเทพตอนเกือบเย็นแล้ว ไอ้พี่ทักก็โทรเข้ามาพอดี
"เฮ้ยย ไปกกกันถึงไหนเนี่ย จะมาซ้อมบาสเปล่า" ไอ้พี่ทักถามผม ผมก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเย็นมันต้องซ้อมบาสนี่หว่า คราวก่อนที่โดดไปโดนพี่ป้องสั่งให้วิ่งกับไอ้ต้อเหนื่อยเกือบตาย เอาวะ ไม่ไปเรียนแต่ขอกูไปซ้อมบาสแล้วกัน
ไอ้ต้าพาผมแวะเอาชุดบาสที่บ้านก่อนจะมาส่งผมที่มหาลัยก่อนเวลาเล็กน้อย ผมเตรียมตัวจะลงรถแต่ไอ้ต้าฉุดข้อมือผมไว้ "อะไรวะ มีอะไรอ่ะ" ผมหันไปถาม ไอ้ต้ายิ้มเขินๆ "จะไปไม่ลาเลยเหรอ" อ้าววว ไอ้ต้า มึงพูดเหมือนกูจะไปตายโดยไม่ได้สั่งเสีย "อะไรของมึงอ่ะ" ผมถามกลับ ไอ้ต้าไม่พูดได้แต่เอียงแก้มยื่นให้ผม อ๊ากกกกกกกก อย่าบอกนะมึงว่าจะให้กูหอมมึงกลางมหาลัย เดี๋ยวก็ได้เป็นข่าวจนได้
ผมหันซ้ายหันขวา คนส่วนใหญ่กลับบ้านไปหมดแล้ว เหลือแต่พวกที่รอซ้อมกีฬาไม่กี่คน ผมก้มหน้าดึงคอเสื้อไอ้ต้าให้ลงต่ำพ้นกระจกหน้ารถ ก่อนบรรจงหอมแก้มเนียนๆที่แดงเรื่อของไอ้ต้าก่อนกำชับ "ขับรถดีๆนะครับที่รัก" ได้ผลเว้ยย หน้าไอ้ต้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย ส่วนกูอ่ะ แดงจนเลือดแทบทะลักออกจมูกออกตาแล้ว อยู่ไม่ได้แล้วเว้ยยย กูเขิน
ผมถือเป้ยืนมองไอ้ต้าที่ถอยรถออกไปจนลับตา หันมาอีกทีไอ้ทักก็ยืนอยู่ข้างๆ อมยิ้มมีเลศนัย "หวานกันจริงนะ นี่ถ้ากูไม่มีไอ้โทนกูคงอิจฉามึงน่าดูเลยนะ" อ๊ากกก อะไรวะ หวานเหวินเหี้ยอะไร กูไม่รู้ไม่ชี้ ผมเดินจ้ำอ้าวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องล็อกเกอร์
พอแต่งตัวเสร็จพี่ป้องก็เป่านกหวีดเรียกพอดี เหี้ยเอ้ย วอร์มก็ก็ไม่ได้วอร์ม ผมรีบวิ่งไปรวมทีม เฮ่ยยยย ทำไมทีมกูมันดูโหรงเหรงพิกลวะ ไอ้ต้อไม่อยู่ พี่วินพี่นัทไอ้โป้ง หายหัวไปไหนกันหมดไม่รู้ ผมรีบเข้าแถวเพราะพี่ป้องแกเล่นจ้องหน้าตาเคร่งขรึม
"พวกมึงเป็นอะไรกันไปหมดวะ" พี่ป้องตะคอกเสียงดังแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เหมือนแกหงุดหงิดอะไรมาซักอย่าง ผมหลบตาไม่กล้าสบสายตาดุๆ ของพี่ป้อง ถ้ากูไม่มาซ้อมแม่งให้กูวิ่งจนตายแหงๆ ดุขนาดนี้วันนี้ "มีใครจะมาลาออกจากทีมอีกบ้าง" พี่ป้องถามเสียงดังจนผมแทบสะดุ้ง เฮ้ย อย่าบอกนะว่าไอ้พวกพี่นัทพี่วินไอ้ต้อเนี่ย มันมาลาออกจากทีมไปแล้ว ว่าแต่ไอ้ต้อเองผมก็ไม่เห็นมันมาหลายวันแล้วเหมือนกัน
ผมกับเพื่อนๆที่เหลือนิ่งเงียบสนิท พี่ป้องพูดอะไรที่ผมไม่เข้าใจอีกหลายประโยค ก่อนจะปล่อยให้พวกเราวิ่งรอบสนาม ผมวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่หายสงสัยเรื่องที่เพื่อนๆ หายไปหมด ผมเลยกระซิบถามเพื่อนที่วิ่งเหยาะๆอยู่ข้างๆกันเบาๆ "เฮ้ย พวกพี่วินไปไหนวะ" ผมร้องถาม เพื่อนผมหันมาตอบเบาๆ "พี่เค้าลาออกจากทีมไปแล้ว สงสัยจะอายเรื่องที่มึงไปเอาตุดมัน" อ้าวเฮ้ยย เกี่ยวอะไรกับกูเนี่ย "เฮ้ย ถามจริง" ผมกระซิบต่อ ไอ้เพื่อนผมหันหน้ามา "ไม่รู้ว่ะ แต่พี่วินกับพี่นัทเค้ามาลาออกด้วยกันทั้งคู่ บอกว่าไม่อยากเล่นแล้ว จะไปตั้งใจเรียนดีกว่า"
ผมพยักหน้างงๆ อะไรของมันวะ "แล้วไอ้ต้อล่ะ" ผมถามต่อ ไอ้เพื่อนคนเดิมเหล่มองพี่ป้องก่อนกระซิบตอบ "มันหายไปไหนไม่รู้ ได้ข่าวว่ามันลาออกจากมหาลัยไปแล้ว ไม่รู้จริงหรือเปล่า" อ้าวเฮ้ยย ไอ้ต้อ มึงโดนกูเย็ดแล้วทิ้งกูเลยเหรอ ไอ้ห่านี่โดนแล้วไม่รับผิดชอบนี่หว่า
"เออ กูได้ยินมาอีกว่า ไอ้โป้งมันก็ไปกับไอ้ต้อด้วย" เย้ยยยยยย ไปไหนกันวะ อย่าบอกนะว่ามึงสองคนตกลงปลงใจจะเป็นผัวเมียกันแล้วหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไป "พูดเป็นเล่น ก่อนหน้านี้ไอ้โป้งมันดูถูกไอ้ต้อจะตาย โอ้ยยยย" ผมกำลังถามเพลินๆ ก็ถูกฝ่ามือพิฆาตฟาดเข้าที่หัว หูยยย "ใครตบหัวกูวะ" ผมร้องลั่นคลำหัวป้อยๆ หันไปก็เจอะกับตาโหดๆของพี่ป้องที่เหมือนจะขย้ำกู
"มึงจะซ้อมหรือจะคุย ถ้าจะคุยกันกูจะไปขอเจ้ฉอดให้พวกมึงสองคนไปเป็นดีเจให้นั่งคุยกันทั้งวัน" เย้ยยย มุกพี่ป้องนี่เอไทม์ได้อีก กูควรจะฮาหรือกลัวมึงแน่วะเนี่ย ผมยกมือไหว้ขอโทษประหลกๆ "ขอโทษค้าบบ" พี่ป้องเห็นผมทำทะเล้นก็เงื้อมือจะฝากรักอีกรอบ แต่ไอ้ต้นเผ่นแน่บออกไปพ้นรัศมีเงื้อมมืออำมหิตของแกแล้ว
ผมยังคงคาใจเรื่องไอ้ต้อกับไอ้โป้ง เรื่องจริงป่าววะที่มึงสองคนลาออกแล้วหนีตามกันไป ก็ไหนว่าเกลียดกันไงวะ ผมวิ่งไปคิดไปเลิน โดยไม่รู้ว่าพี่ป้องสั่วงให้หยุดแล้ว หน้าเลยกระแทกเข้ากับเพื่อนข้างหน้าที่หยุดลงกระทันหันจนล้มคะมำไปทั้งคู่
"กูว่าแล้วต้องเป็นมึง" ผมคลำหัวเข่าตัวเองปากก็บ่นไอ้ทักที่โดนผมชนเข้าเต็มรัก ความซวยยังมาเยี่ยมเยือนบ้านผมทุกวันไม่ได้ขาดทุกครั้งที่อยู่ใกล้ไอ้ทักมัน ไอ้ทักเองก็ชี้หน้าผม "เหี้ย ทีหลังเก็บควยด้วยนะมึง ตูดกูช้ำไปหมดแล้ว" เย้ยยยย กูยังไม่ได้โด่นะเฟร้ยยย
"เอ้าไอ้ต้น มึงอีกแล้ว" เสียงพี่ป้องดังมาแต่ไกล ผมรีบผุดลุกขึ้นยืนตรงทำเป็นไม่มีอะไร "เป็นไรนักหนาวะ เหม่อตลอด" พี่ป้องถามผมหน้าจ้องผมเขม็ง เหี้ยเอ้ย ทำไมกูต้องมาซวยซ้ำซ้อนแบบนี้วะเนี่ย
พี่ป้องหันไปมองเพื่อนๆที่ยืนเรียงหน้ากระดานแล้วก็พูดเสียงดัง "ตั้งแต่วันนี้ไปสองสัปดาห์ จะเป็นการคัดตัวพวกเราแต่ละคนว่าใครจะติดทีมมหาลัยบ้าง" พี่ป้องเว้นระยะก่อนพูดต่อ "คุณสมบัติของคนที่จะได้เป็นนักบาสของมหาลัยแล้ว นอกจากจะมีทักษะการเล่นบาสอย่างดีแล้ว ยังต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ" พี่ป้องพูดแล้วหันมาหาผมเต็มๆ "ต้องมีความทุ่มเท มีระเบียบวินัยไม่โดดซ้อม ให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับเพื่อนๆในทีม ไม่คิดว่าตัวเองเด่นกว่า หรือมีดีกว่าคนอื่น" พี่ป้องพูดโดยไม่ละพะสายตาจากหน้าผม เหี้ยเอ้ย จะด่ากูก็ด่าเลยมา
"ที่สำคัญ ต้องไม่ทำให้ทีมแตกแยกขาดความสามัคคี ถ้าคิดว่าพวกคุณทำไม่ได้ ก็มาลาออกไป" เสียงพี่ป้องสั่งเฉียบขาด กูขอยกมือลาออกเลยได้ไหมวะ แม่งเอ้ยแต่ละอย่างที่พูดมา ช่างห่างไกลจากตัวไอ้ต้นเหลือเกิน
พี่ป้องเดินมาหยุดตรงหน้าผมแล้วจ้องเขม็ง "โดยเฉพาะคนที่ได้ทุนจากมหาลัย อย่าคิดว่าตัวเองเก่งว่าคนอื่น ถ้าทำไม่ได้ผมจะเสนอขอให้มหาลัยตัดการให้ทุนทันที" แปลว่าอะไรวะ แปลว่ากูไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องติดทีมให้ใช่ไหม เอาวะ งานนี้ไอ้ต้นสู้ตาย
พี่ป้องพูดเสร็จแกก็สั่งให้ผมกับเพื่อนๆแยกเป็นสองทีมซ้อมด้วยกัน คำพูดของพี่ป้องยังดังก้อง เอาสิวะ คนอย่างไอ้ต้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ไอ้ต้นทำไม่ได้ (ยกเว้นออกลูก) กูละเลยความฝันที่จะติดทีมชาติมานานแล้ว วันนี้ขอไอ้ต้นตามล่าความฝันต่อหน่อยเหอะ
ผมซ้อมบาสกับเพื่อนๆอยู่จนค่ำ พี่ป้องแกก็กลับไปแล้ว เพื่อนๆบางคนอยู่ซ้อมต่อ แต่บางคนก็กลับไปหลังจากพี่ป้องไม่นาน ไม่ทันไรก็เหลือแต่ผมซ้อมชู๊ตลูกอยู่คนเดียว ตอนนั้นเกือบสองทุ่มได้แล้ว แต่ไม่รู้ไอ้ต้นคึกมาจากไหน ตั้งเป้าว่าถ้าชู๊ตลูกลงห่วงติดต่อกันเกินห้าสิบลูกไม่ได้ไม่กลับ
แฮ่ๆๆ ในที่สุดไอ้ต้นก็ทำได้ แต่กว่าจะทำสำเร็จล่อเข้าไปสามทุ่มครึ่ง แม่งเล่นเอาซะกูหมดแรง ผมเดินเข้าไปในห้องล้อกเกอร์ที่ร้างผู้คน ใจหายตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนกูยังกลัวผีอยู่กับไอ้ต้อในห้องนี้อยู่เลย พอนึกเรื่องผี ไอ้ต้นก็นึกเรื่องเผ่นตามทันที อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย ผมรีบเปิดตู้ล็อกเกอร์หยิบกระเป๋าเป้ที่ใส่ไว้ออก น้ำเนิ้มไม่อาบแล้ว กลับไปให้ไอ้ต้าอาบให้ดีกว่า
ผมดึงกระเป๋าเป้ออกจากล้อกเกอร์ สายตาก็พลันเห็นเศษกระดาษเล็กๆ ปลิวออกมาจากล็อกเกอร์ตามมาด้วย ผมหยิบกระดาษนั้นขึ้นมางงๆ บนนั้นมีลายมือเป็นระเบียบเหมือนลายมือผู้หญิงเขียนไว้
"ขยันซ้อมจังเลยนะ เหนื่อยหรือเปล่า เป็นกำลังใจให้นะ"

********************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น